สะพัดอาถรรพ์เจดีย์ยักษ์ถล่ม ชี้วางมาลัยไร้บวงสรวง
จากกรณีเหตุการณ์ หอระฆังเจดีย์ยักษ์อายุหลายร้อยปี วัดพระยาทำวรวิหาร พังถล่มฝังร่างคนงานทั้งเป็น 12 ชีวิต ภายหลังหน่วยกู้ภัยระดมกำลังช่วยเหลือไว้ได้ 11 ราย เหลือเพียง 1 รายเสียชีวิตติดอยู่ในเศษอิฐเศษปูน เจ้าหน้าที่ต้องต้องใช้เครื่องขุดเจาะนานกว่า 6 ชม. จึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้ ขณะที่ผอ.กองโบราณคดี คาดดินอ่อนตัว เตรียมใช้เครื่องสแกน 3 มิติประเมินความเสียหาย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงในพื้นที่โดยในช่วงคืนที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีใครเข้าไปในบริเวณจุดเกิดเหตุแต่อย่าง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่บริเวณโดยรอบรวมทั้งมีการกั้นพื้นที่เพื่อรอการตรวจสอบอีกด้วย อย่างไรก็ตาม มีชาวบ้านระบุว่า วัดพระยาทำวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าถูกสร้างมาในสมัยใดกันแน่ บ้างก็ว่าสมัยอยุธยา บ้างก็ว่าสมัย ร.3 แต่วัดนี้ก็ได้ถูกบูรณปฏิสังขรณ์มาหลายสมัย ซึ่งในการทำแต่ครั้งนั้นจะต้องมีการทำพิธีตามความเชื่ออีกด้วย เชื่อว่าการพังถล่มลงมาครั้งนี้อาจเป็นเพราะไม่ได้ทำพิธีดังกล่าวก็เป็นได้
ด้าน พระลูกวัดพระยาทำวรวิหารเผยถึงรายละเอียดของเจดีย์ยักษ์ว่า เดิมเจดีย์ยักษ์เป็นเพียงหอระฆังมีอายุนานหลายร้อยปี ระหว่างการตกแต่งพื้นผิวภายนอกใหม่ และยกระดับความสูงไม่ต่ำกว่า 1.3 เมตร เริ่มซ่อมแซมตั้งแต่เดือน พ.ค. 61 ก่อนจะยุบตัวจนยอดหักโค่นลงมา ทั้งนี้เป็นที่น่าแปลกใจว่าในการซ่อมแซมโบราณสถานต่าง ๆ จะต้องมีการทำพิธีบวงสรวงตามประเพณีความเชื่อพราหมณ์ แต่การซ่อมแซมครั้งนี้ กลับมีเพียงคนงานก่อสร้าง นำพวงมาลัยมาไหว้เท่านั้น.