สุดสลด! ลูกวัย 4ขวบ นั่งเฝ้าศพพ่อผูกคอดับ ร้องตะโกน “พ่อตายแล้ว”

สุดสลด! ลูกวัย 4ขวบ นั่งเฝ้าศพพ่อผูกคอดับ ร้องตะโกน “พ่อตายแล้ว”

สุดสลด หนูน้อยวัย 4 ขวบ นั่งเฝ้าร่างไร้ลมหายใจของพ่อ หลังเครียดปัญหาชีวิตเขียนจดหมายลาตาย ก่อนใช้สายไฟฟ้า ผูกคอ ตนเองกับท่อระบายน้ำนั่งเสียชีวิตคาห้องน้ำในบ้านเช่า เพื่อนบ้านประกาศตามหาแม่ รับลูกกลับไปเลี้ยงดู จดหมายลาตายของผู้เสียชีวิต
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ต.ค. ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง พนักงานสอบสวน รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิต ภายในบ้านเช่าเลขที่ 205/27 ซอยแสงนาคแยกจากซอยสุขสวัสดิ์ 82 ม.1 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สายัญ มะโนรัตน์ สว.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ แพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าขนาด 2 ชั้น บริเวณห้องที่ 6 เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปในห้องดังกล่าว ก็พบภาพที่น่าสลดใจบริเวณหน้าห้องน้ำพบ น้องพี เด็กน้อยอายุ 4 ขวบ นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ภายในห้องน้ำพบศพนายวิไลย์ สุทา อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.1 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งเป็นพ่อของน้องพี
โดยนายวิไลย์เสียชีวิตในลักษณะนั่งอยู่บนพื้นตัวเอนไปทับกับโถ่ส้วม ใกล้กันพบสายไฟฟ้าสีเทาขาดตกกองอยู่บนพื้น บริเวณท่อระบายน้ำด้านบนเหนือศีรษะยังพบสายไฟเส้นเดียวกันมัดติดอยู่ จากตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลและร่องรอยการต่อสู้ บริเวณกลางห้องตรงที่นอนพบกระดาษโน๊ตที่ผู้ตายเขียนไว้ว่า "ผมขอชดใช้ ค.ทำใหม่ผมเป็น ผ.ลูกเดือ" ซึ่งคาดว่าเป็นจดหมายลาตายของนายวิไลย์ที่เขียนตัดพ้อถึงเรื่องส่วนตัว
จาการสอบถาม นางแหวน มะลิ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 ม.8 ต.หนองหัวช้าง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อนข้างห้อง เปิดเผยว่า นายวิไลย์พักอาศัยอยู่กับน้องพี โดยก่อนหน้านี้นายวิไลย์พร้อมครอบครัวได้เคยมาเช่าอยู่ห้องตรงข้ามนานกว่า 1 ปีแล้วย้ายออกไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งนายวิไลย์เป็นคนงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง
นางแหวน กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น นายวิไลย์ได้กลับมาขอเช่าห้องอยู่ที่เดิม ส่วนภรรยาได้เลิกรากันมาแล้วกว่า 2 เดือน ระหว่างที่นายวิไลย์อยู่เป็นคนส่งเสียและเลี้ยงดูน้องพีมาโดยตลอด บางครั้งนายวิไลย์ยังเคยมาปรึกษาและระบายความในใจให้ตนฟังถึงเรื่องการเลี้ยงลูกว่าจะเลี้ยงคนเดียวไม่ไหว ตนยังได้แนะนำและคอยให้กำลังใจเรื่อยมา
นางแหวน กล่าวอีกว่า กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ หัวหน้างานได้เห็นนายวิไลย์ไม่มาทำงาน จึงได้มาตามที่ห้องพร้อมเคาะเรียกสักครู่ใหญ่ แต่กลับได้ยินเสียงน้องพีลูกของนายวิไลย์ที่อยู่ในห้องตะโกนร้องออกมาว่า "พ่อตายแล้ว" จึงเรียกให้น้องพีเปิดประตูแต่เปิดไม่ออกจึงตัดสินใจใช้มือล้วงช่องบานเกร็ดเข้าไปบิดลูกบิดประตู ก่อนที่จะเดินเข้าไปดูพบนายวิไลย์นั่งเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ตนอยากจะฝากผ่านทางผู้สื่อข่าวให้ติดตามตัวแม่ของน้องพีให้มารับไปดูแล เนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้เลย
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานเบื้องต้นคาดว่า นายวิไลย์น่าจะเป็นโรคซึมเศร้าและเครียดที่ถูกภรรยาเลิกราประกอบกับไม่มีใครเลี้ยงดูลูก จึงตัดสินใจเขียนจดหมายสั่งเสีย ก่อนที่จะใช้สายไฟฟ้าผูกคอตนเองกับท่อระบายน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
TAG