เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2562 เว็บไซต์มิเรอร์ เผยรายงานคดีชวนสลดใจ หญิงวัย 50 ปี ถูกพิพากษาตัดสินโทษจำคุก ภายหลังจากปล่อยให้สามีวัย 44 ปี ข่มขืนลูกสาวตัวเองจนตั้งท้อง ตั้งแต่อายุเพียง 12 ปี โดยศาลเมืองเอลส์บรี ของอังกฤษ ระบุว่า เธอเป็นแม่ที่เลวร้ายมาก และความผิดครั้งนี้จะต้องติดตัวเธอไปจนถึงวันที่ลงไปอยู่ในหลุมศพ
โดยรายงานระบุว่า หญิงรายดังกล่าวยินยอมให้ชายผู้เป็นสามีข่มเหงรังแกลูกสาวของตนเอง ตั้งแต่ตอนที่ลูกสาวอายุเพียง 10 ขวบ ต่อเนื่องมาจนกระทั่งอายุ 16 ปี แถมยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่สนใจเมื่อลูกสาวร้องขอความช่วยเหลือด้วยความหวาดกลัว เหตุผลเพียงเพราะเธอกลัวว่าสามีจะทิ้งเธอไป
เธอปล่อยให้ลูกสาวตกเป็นเหยื่อกามของสามีมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งตอนที่ลูกสาวตั้งท้องครั้งแรกตอนอายุ 12 ปี สามีของเธอกล่าวว่า ให้ลูกสาวไปเอาเด็กออก พร้อมกับขู่เช่นเดิมว่า จะยุติความสัมพันธ์ และเธอก็ต้องยอมทำตาม
หลังจากนั้น สามีของเธอก็ยังคงมีพฤติกรรมเช่นเดิม กระทั่งลูกสาวของเธอตั้งท้องอีกครั้งตอนอายุ 13 ปี เธอจึงบอกกับสามีว่าให้เก็บเด็กไว้เป็นลูกของเธอและเขาก็ได้ เพราะทั้งสองก็พยายามมีลูกด้วยกันอยู่แล้ว แต่เขาไม่ยอมและยืนยันให้เธอพาลูกสาวไปเอาเด็กออกเช่นเดิม เหตุการณ์ดำเนินเช่นนี้มาเรื่อย ๆ หลายปี จนวันหนึ่งเด็กหญิงโตพอที่จะกล้าแจ้งเรื่องต่อตำรวจ จากนั้นจึงนำมาสู่การควบคุมตัวทั้งสองไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
ความจริงเลวร้ายปรากฏในเวลาต่อมา ว่าคนที่กระทำชำเราเด็กหญิงไม่ได้มีเพียงตัวพ่อเลี้ยงเท่านั้น แม้แต่ญาติของพ่อเลี้ยงที่แวะเวียนมาอาศัยอยู่ที่บ้านเป็นครั้งคราว ก็ลงมือข่มขืนเด็กหญิงด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวพ่อเลี้ยงก็รู้เรื่องนี้ แต่ไม่ได้คิดจะห้ามปรามอะไร ยังคงปล่อยให้ญาติตัวเองทำตามใจเรื่อยมา
ทางศาลชี้ว่า พฤติกรรมของเขาถือว่าเป็นพ่อเลี้ยงที่จิตใจเลวทรามมาก ทำกับลูกเลี้ยงราวกับเป็นแค่สิ่งของ ทำลายชีวิตของเด็กคนหนึ่งไปอย่างสิ้นเชิง ตัดสินโทษจำคุกยาว 20 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้เยาว์ ขณะที่ฝ่ายหญิงภรรยา ถูกพิจารณาตัดสินโทษจำคุก 3 ปี ในข้อหาปล่อยปละละเลยลูก
ภายหลังจากจากที่หญิงรายดังกล่าวได้ฟังคำตัดสินโทษจำคุกจากทางศาล เธอได้ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ซึ่งทางผู้พิพากษาชี้ว่า เธอร้องไห้ออกมาด้วยความเห็นแก่ตัว ไม่ได้แสดงท่าทีหรืออาการสำนึกผิดต่อลูกสาวของเธอเองเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เธอทำเป็นเรื่องที่น่าหดหู่มาก เธอยอมให้ลูกสาวถูกกระทำย่ำยี เพื่อที่จะได้อยู่กับสามีต่อไป เธอจะต้องรู้สึกผิดกับสิ่งนี้ไปตลอดชีวิต